วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

NAS คือ

NAS  คือ อะไร ?


    NAS ย่อมาจาก Network Attached Storage  คืออุปกรณ์เก็บข้อมูลมาต่อเข้ากับเครือค่าย   ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บข้อมูลส่วนกลางของระบบ  ให้สามารถให้ไฟล์ข้อมูลต่างๆ  แชร์หรือสำรอง ให้กับระบบ  Network  ร่วมกัน  เรียกอีกอย่างว่าเป็น File Transfer Server หรือ Multimedia Server  ก็ว่าได้
   

  จุดเด่นของ NAS คือ มีขนาดเล็ก ใช้ไฟน้อยมาก  เมื่อเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์  สามารถเพิ่มขนาดพื้นที่ได้จำนวนมาก  มีระบบจัดการข้อมูล  Raid ให้  เน้นการถ่ายโอนข้อมูลและมัลติมีเดียเป็นหลัก    สามารถกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลได้   ซึ่งขนาดและความจุที่เครื่องจะรับได้นั้นขึ้นอยู่กับสเปคของแต่ละเครื่อง   โดยจะมีความจุของจำนวนฮาร์ดดิสหรือ SSD ตั้งแต่ 1 ช่องขึ้นไปจนถึงหลักร้อย  ไม่เน้นการประมวลผลหนักๆ



     การติดต่อกับเครื่อง NAS ทำได้  3 วิธีคือ


   1. Web Browser  เช่น ie  firefox หรือ chrome การติดต่อผ่าน browser นี้จะเป็นการตั้งค่าต่างๆ  หรือเรียใช้โปรแกรมที่เราติดตั้งอยู่ภายในเครื่อง NAS ให้ทำงาน
   2. File explorer เช่น window explorer ของระบบปฏิบัติการวินโดว์  ใน mac ก็คือ finder ซึ่งวิธีนี้ส่วนใหญ่จะใช้ในการถ่ายโอนหรือดึงข้อมูลมาใช้
   3. Command line  เป็นวิธีที่ดีที่สุด ปลอดภัย และต้องใช้ความสามารถมากที่สุด  เนื่องจากต้องรู้คำสั่งในการสั่งงานเครื่อง


แล้ว DAS / NAS / SAN ต่างกันอย่างไร...   
   - DAS ย่อมาจาก Direct Attach Storage คือการนำเอา storage มาต่อเข้ากับ server เครื่องเดียวโดยตรง นั่นก็คือ External Hard Drive  หรือจะเป็น  External  Solid State Drive  ก็ได้

   - NAS ย่อมาจาก Network Attached Storage คือการนำเอา  storage  ใส่ในเครื่อง  NAS แล้วมาต่อเข้ากับระบบ  Network  

   - SAN ย่อมาจาก Storage Area Network คือการนำเอา Storage มาต่อใส่ใน SAN switch เริ่มตั้งแต่ 12 ช่องไปจนถึงร้อยๆตัว  เข้ากับระบบ  Network  มีประสิทธิภาพและมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่สูงมาก  ซึ่ง  SAN  เป็นการแก้ไขปัญหาระบบของ NAS  ที่มีการใช้ข้อมูลจำนวนมากเกินไปที่ระบบ  NAS จะรับได้ไม่ไหว 

หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังศึกษานะคับ

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Server คือ

Server คือ อะไร ?
เอาละ..  วันนี้จะมาว่าด้วยเรื่อง  เครื่องเซิฟเวอร์ Server

เครื่องเซิฟเวอร์ คืออะไร....

                    อันที่จริงแล้วเครื่องเซิฟเวอร์ก็คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง   แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องคอมที่เราๆ หรือท่านๆใช้กัน   ด้วยที่ว่าจะต้องสามารถทำงานได้ตลอดเวลานานๆโดยไม่ปิดเครื่องเลยเพราะเครื่องเซิฟเวอร์แต่ละเครื่องนั้นเปิดเครื่องทีนึงนินานนะกว่าจะใช้งานได้   ใช้การคำนวนภาระงานหนักๆ หรือ หลากหลายงานพร้อมๆกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร  แต่ด้วยยุคสมัยนี้คอมบ้านๆที่เราซื้อมาราคาแพงจะแฝงมาด้วยคุณสมบัติสุดเจ็งพอๆหรือสูงกว่าเครื่องเซิฟเวอร์เลยก็ว่าได้

โดยหน้าที่หลักๆคือการให้บริการหรืออำนวยความสะดวกให้แก่เครื่องที่เข้ามาใช้งานในระบบ  LAN  หรือ Internet ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบก็คือ

   1.แบบ Rack คือเครื่องเซิฟเวอร์ที่วางในแนวนอนนั้นเอง โดยปกติจะใช้พื้นที่ในการติดตั้งในตู้ 1 - 2 Unit(ช่องเสียบด้านในตู้อะ) เท่านั้น  ยกเว้นรุ่นพิเศษจะใช้เยอะหน่อยคิคิๆ 

      ข้อดี  คือ  ขนาดเล็กประหยัดเนื้อที่  เบาบาง
      ข้อเสีย  คือ  การระบายความร้อนไม่ค่อยดี 

   2.แบบ Tower เป็นที่นิยมสำหรับองค์กรที่ใช้ในการทำงานที่หนักๆ ประมวลผลเยอะมากๆ ต้องการสเปคเครื่องที่เทพสุดๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็น Application Server สำหรับคำนวนโปรแกรมประยุกต์ที่ทำขึ้้นมาโดยเฉพาะของแต่ละบริษัทนั้นๆ

      ข้อดี   คือ  ประสิทธิภาพล้วนๆ สามารถเพิ่มเสริมเติมแต่งได้เยอะ
      ข้อเสีย   คือ  ขนาดใหญ่  มีน้ำหนักมาก  

Server มีกี่ประเภท  ว่าตามภาระหน้าที่นะ ใครทำไรก็ทำไปแต่พอแยกละก็ประมาณนี้
   DataBase Server
   Mail   Server
   Web   Server
   File Transfer   Server
   DNS  Server
   Application   Server

   แล้วที่เครื่องใหญ่ๆ โตๆ ที่ใช้ทำงานกราฟฟิกส์ล่ะใช่เครื่องเซิฟเวอร์ไหม   คำตอบคือ ไม่ใช่นะครับเพราะเครื่องที่ทำงานพวกกราฟฟิกส์หรือตัดต่อวิดีโอนั้นจะเรียกว่า Computer Graphic หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ เครื่อง Work Station  ซึ่งโดยหลักการแล้วไม่ถือเป็นเครื่องเซิฟเวอร์  

แล้วมันจำเป็นไหมละ...
   อันที่จริงก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น  หรือการใช้งานที่เหมาะสมนะครับ  บางทีไม่ใช้ก็ได้โดยหันไปใช้เครื่องคอมบ้านๆมาทำก็มี  แต่ขอบอกว่าประสิทธิภาพมันต่างกันนะครับ  ทำได้แต่ไม่เท่าที่ควรจะเป็นว่างั้น   

แล้วอย่างไหนถึงจะต้องใช้ละ...
   โดยส่วนใหญ่ในบริษัทที่มีเว็บไซต์  อีเมล์ เป็นของบริษัทเองอย่างนี้จำเป็นครับ  และบริษัทที่ใช้โปรแกรมประยุกต์ทั้งหลายอันนี้จำเป็นอย่างมาก  แต่ถ้าบริษัทใดใช้แค่จัดเก็บไฟล์งานหรืออะไรๆที่ไม่ได้ประมวลผลมากก็ไม่จำเป็นโดยหันไปใช้จำพวกเครื่อง NAS แทน หรืออาจจะใช้เครื่องคอมธรรมดาก็ได้

ระบบปฏิบัติการหรือ Operating System หลักๆ ของเครื่องเซิฟเวอร์ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 ระบบที่นิยมในปัจจุบันคือ
      1. Linux แล้วแต่ละองค์กรไหนชอบแบบไหน Ubuntu Debian  CentOS  Fedora  RedHat  OpenSuse ว่าไปนั้น
      2. Windows Server เอากันมาให้หมด ตั้งแต่ 2005 ไปจนถึง 2015 R... กันเลยทีเดียว